ตู้เชื่อมหรือตู้เชื่อมไฟฟ้า เป็นเครื่องมือช่างสำหรับช่างเชื่อม หรืองานช่างทั่วไปมีความสำคัญอย่างมากสำหรับงานเชื่อมหรืองานตัดด้วยไฟฟ้า สามารถช่วยให้ทำงานได้อย่างรวดเร็วประหยัดเวลา ซึ่งตู้เชื่อมแต่ละประเภท มีความแตกต่างกันอย่างไร และมีข้อดีข้อเสียแบบไหนบ้าง เลือกอย่างไรให้เหมาะกับงาน เพื่อให้ได้ตู้เชื่อมที่มีความสามารถและประสิทธิภาพในการทำงาน นำไปใช้งานได้อย่างเป็นมืออาชีพ
ตู้เชื่อม แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
งานช่างมือโปร มีการเลือกตู้เชื่อมให้เหมาะกับสภาพการใช้งาน และชนิดของหน้างานอย่างไรเรามาทำความรู้จักกับตู้เชื่อม แต่ละประเภทมีอะไรบ้าง และเหมาะสมกับหน้างานกันอย่างไร
ตู้เชื่อม ใช้ธุปเชื่อม (MMA/ARC)
เป็นตู้เชื่อมที่มีการเชื่อมได้เร็ว มีราคาค่อนข้างถูก เหมาะสำหรับงานที่ไม่หนักมากนัก มีความสวยงามของแนวเชื่อมน้อยมาก จึงไม่เหมาะกับงานโชว์ความสวยงาม มีข้อดีคือ มีอุปกรณ์ในการติดตั้งน้อย,ตั้งค่าไม่ยุ่งยากซับซ้อน, และสามารถเชื่อมได้ง่าย เป็นต้น การเชื่อมในลักษณะแบบนี้ เป็นกระบวนการเชื่อมโลหะให้ติดกันโดยใช้ความร้อนด้วยลวดหุ้มฟลักซ์ หรือลวดเชื่อม ให้ติดกับชิ้นงาน เหมาะสำหรับการเชื่อมเหล็กเป็นหลัก รวมไปถึงงานอลูมิเนียมและสแตนเลส อีกด้วย มี3 แบบคือ
- ตู้เชื่อมใช้ธุปเชื่อม (MMA/ARC) ใช้ไฟกระแสสลับ
- ตู้เชื่อมใช้ธุปเชื่อม (MMA/ARC) ใช้ไฟกระแสตรง
- ตู้เชื่อมใช้ธุปเชื่อม (MMA/ARC) ใช้ไฟกระแสตรงต่อขั้วลบ
ตู้เชื่อมไฟฟ้า TIG (อาร์กอน)
ตู้เชื่อมชนิดนี้เป็นตู้เชื่อมที่มีความยุ่งยากในการใช้งานมากที่สุด แบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือตู้เชื่อมอาร์กอนแบบใช้ก้านธูป และระบบไฟฟ้า ประกอบไปด้วย AC และ AC กับ DC นั่นเอง
ตู้ตู้เชื่อมไฟฟ้า TIG (อาร์กอน) ระบบ AC เป็นเครื่องเชื่อมไฟฟ้าที่มีขนาดเล็ก ใช้งานตั้งแต่ 200 แอมป์ขึ้นไป แบ่งเป็น 2 ระบบกับ 3 ระบบ คือ การใช้งาน 2 ระบบใช้งานร่วมกันกับงานเชื่อมอลูมิเนียมกับอาร์กอน และการใช้งาน 3 ระบบใช้งานร่วมกันกับ เชื่อมอลูมิเนียม เชื่อมเหล็ก และเชื่อมอาร์กอน
ตู้เชื่อมไฟฟ้า TIG (อาร์กอน) ระบบ AC กับ DC ตู้เชื่อมชนิดนี้จะมีสวิตซ์ปรับเปลี่ยนระบบการใช้งานที่สามารถเชื่อม TIG และ ARC ในตัวเดียวกัน เพียงแค่มีการสลับสายเชื่อมขั้วบวก และขั้วลบในระหว่างการใช้งานเท่านั้น มีข้อแตกต่างกันดังนี้ ใช้งานเพื่อเชื่อม TIG สายดินจะย้ายไปอยู่ที่ขั้วบวก และสายเชื่อมจะย้ายไปอยู่ที่ขั้วลบ และใช้งานเพื่อเชื่อมธูปเชื่อม ARC สายดินย้ายมาใส่ที่ขั้วลบ และสายเชื่อมย้ายมาอยู่ที่ขั้วบวก
ตู้เชื่อมไฟฟ้า TIG (อาร์กอน) เหมาะสำหรับงานที่เชื่อมวัสดุที่มีความบาง แต่มีระยะห่างไม่มากนัก ให้ความสวยงามกับแนวเชื่อมมีความแข็งแรงสูง ใช้กับงานที่ต้องการรายละเอียดสูงเช่น ท่อไอเสียรถ,งานเฟอร์นิเจอร์,และชิ้นงานในอุตสาหกรรมเป็นต้น
ตู้เชื่อมไฟฟ้า MIG หรือ CO2
เป็นตู้เชื่อมที่ผู้ใช้งานจะต้องมีความชำนาญและความสามารถสูง ให้ความสวยงามของแนวเชื่อมในระดับที่ดี สามารถเชื่อมได้กับเหล็ก อลูมิเนียมและสแตนเลส และวัสดุอื่นๆ เชื่อมได้ด้วยความเร็วระดับปานกลาง เหมาะสำหรับงานเชื่อมที่ต้องการความรวดเร็ว และมีความแข็งแรงสูง
ตู้เชื่อมใช้ธุปเชื่อม (MMA/ARC),ตู้เชื่อม CO2, และตู้เชื่อมแบบอาร์กอน มีความสามารถและประสิทธิภาพที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งาน และหน้างานที่ใช้ หากต้องการตู้เชื่อมเพื่อนำไปใช้งานเราขอแนะนำ ตู้เชื่อมประสิทธิภาพสูง ทำงานได้ทุกรูปแบบ สามารถเลือกตู้เชื่อม โคเวท ไม่เสียใจอย่างแน่นอน